อาการจุกระหว่างวิ่ง มีสาเหตุมาจากอะไร?

Trending Fitness Topics  > Sports >  อาการจุกระหว่างวิ่ง มีสาเหตุมาจากอะไร?

อาการจุกระหว่างวิ่ง มีสาเหตุมาจากอะไร?

กีฬาวิ่ง
| | 0 Comments

กีฬาวิ่งถือเป็นกีฬาอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมาย แถมยังช่วยในด้านของสมรรถภาพทางร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อคุณวิ่งไปแล้วอาจจะเกิดอาการบาดเจ็บได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ เส้นเอ็ง รวมทั้งกระดูกด้วยเช่นกัน เนื่องจากการวิ่งจะต้องแบกรับน้ำหนักของตนเองเอาไว้ เพื่อต้านแรงโน้มถ่วงของโลกอยู่ตลอดเวลา ยิ่งคุณวิ่งในระยะไกลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บมากขึ้นเท่านั้น และนอกจากนี้ยังมีอาการจุก ที่เชื่อได้ว่านักวิ่งทั้งหลายจะต้องเคยเป็นกันบ่อยอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นไปดูกันเลยว่า อาการจุกขณะวิ่ง เกิดมาจากสาเหตุใดได้บ้าง

เหตุผลที่เกิดอาการจุกระหว่างวิ่งมีอะไรบ้าง

นักวิ่งหาย ๆ ท่านอาจจะให้เหตุผลของอาการจุกที่เกิดขึ้นระหว่างวิ่งว่า มีการเว้นช่วงระยะเวลาในการรับประทานอาหารก่อนวิ่งไม่มากพอ ซึ่งควรจะเว้นช่วงประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง แต่ในบางครั้งเมื่อคุณไม่รับประทานอะไรเลยก่อนไปวิ่งยังเกิดอาการจุก ซึ่งนักวิ่งหลาย ๆ ท่านที่วิ่งในระยะทางยาว ๆ วิ่งไปทานไปแล้วไม่เกิดอาการจุกก็มี ซึ่งอาการจุกนี้จะเกิดมาจากการเคลื่อนที่ซ้ำ ๆ ไปมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุในช่องท้อง สำหรับอาการนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ในนักวิ่งหรือผู้ที่ออกกำลังกายที่ใช้ลำตัวในการบาลานซ์มาก ๆ ในส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดอาการจุกระหว่างวิ่งก็มีเช่นกัน อย่างเช่น อายุ ท่าวิ่งรวมทั้งความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ในส่วนนี้จะมีวิธีการป้องกันได้ คือ

  • บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ โดยเน้นกล้ามเนื้อบริเวณท้อง หลัง และสะโพกเป็นหลัก เพื่อทำให้ตัวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  • ปรับปรุงท่าวิ่งให้มีความบาลานซ์กันมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในขณะวิ่งช่วงบนของหลังควรตั้งเป็นเส้นตรง
  • ซ้อมวิ่งให้บ่อยยิ่งขึ้นเพื่อให้ร่างกายเกิดความเคยชิน พร้อมทั้งยังสามารถสร้างความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
  • สำหรับผู้ที่เกิดอาการจุกระหว่างวิ่งบ่อย ๆ ควรจะทานอาหารก่อนไปวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ และควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ก่อให้เกิดอาการแน่นท้อง

หากในระหว่างวิ่งเมื่อคุณเกิดอาการจุก หรือแน่นท้อง ให้คุณลดระดับความเร็วลงจนกว่าอาการจะดีขึ้น หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นเดินแทนเพื่อให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และเมื่อหายจุกแล้วค่อยเริ่มวิ่งต่อไป แต่หากกลับมาวิ่งแล้วยังเกิดอาการจุกใหม่ ให้คุณหยุดวิ่งในทันทีและเข้าพบแพทย์จะดีกว่า เพราะหากเกิดปัญหาในเรื่องของร่างกาย จะได้เข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง